วิธีสมัครไบแนนซ์ Binance ปี 2024 อัพเดทล่าสุด
การสมัคร Binance 2024 ในไทย เข้าเว็บไซต์ Binance กรอกอีเมลที่ใช้งาน หมายเลขโทรศัพท์รอรับรหัสยืนยันได้ บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางสำหรับการยืนยันตัวตน
วิธีสมัครไบแนนซ์ Binance อัพเดทล่าสุด คู่มือการใช้งานแบบมืออาชีพ
การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในไทย และหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบันคือ Binance ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันและใช้งานง่าย บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนการสมัคร Binance ในไทยอย่างละเอียด พร้อมแบ่งหัวข้อให้เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นการลงทุนได้ทันที
ทำความรู้จักกับ Binance
Binance เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Changpeng Zhao หรือ CZ Binance เป็นที่รู้จักด้วยความหลากหลายของเหรียญคริปโตที่สามารถซื้อขายได้ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และความปลอดภัยที่มั่นคง นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ เช่น สินเชื่อ (Lending), สเตค (Staking) และฟิวเจอร์ส (Futures) ซึ่งทำให้ Binance เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทุกระดับ
Binance เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุดในโลก ด้วยผู้ใช้มากกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก Binance ให้บริการที่หลากหลาย รวมถึงการซื้อขายสปอต การซื้อขายฟิวเจอร์ส การเดิมพัน และการให้ยืมสกุลเงินดิจิทัล
หากคุณสนใจที่จะเริ่มต้นใช้ Binance ในประเทศไทย ต่อไปนี้คือคู่มือทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการสมัครและเริ่มต้นใช้งาน:
ขั้นตอนการสมัคร Binance ไบแนนซ์ในปี 2024
1. สมัคร Binance ต้องใช้อะไรบ้าง?
ก่อนที่จะเริ่มสมัครสมาชิก Binance คุณควรเตรียมเอกสารและข้อมูลต่อไปนี้ให้พร้อม:
- อีเมลที่ใช้งานได้จริง
- หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถรับรหัสยืนยันได้
- บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางสำหรับการยืนยันตัวตน
2. ลงทะเบียนบัญชี
- เข้าสู่เว็บไซต์ Binance: ไปที่เว็บไซต์ Binance
- คลิกที่ปุ่ม "สมัครสมาชิก" (Sign Up): ปุ่มนี้จะอยู่ที่มุมขวาบนของหน้าแรก
- กรอกข้อมูลส่วนตัว: กรอกอีเมลและรหัสผ่านที่คุณต้องการใช้ในการเข้าสู่ระบบ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม "สร้างบัญชี" (Create Account)
- ยืนยันอีเมล: ระบบจะส่งรหัสยืนยันไปที่อีเมลที่คุณใช้สมัคร ให้นำรหัสนั้นมากรอกในช่องที่กำหนดเพื่อยืนยันตัวตน
3. เปิดใช้งานการรักษาความปลอดภัย
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA): เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ควรเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอนโดยใช้แอป Google Authenticator หรือการยืนยันผ่าน SMS
- ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์: กรอกหมายเลขโทรศัพท์และรับรหัสยืนยันผ่าน SMS เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยในการใช้งาน
4. การยืนยันตัวตน (KYC)
- กรอกข้อมูลส่วนบุคคล: เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่โปรไฟล์ของคุณที่มุมขวาบน แล้วเลือก "การยืนยันตัวตน" (Identity Verification)
- อัพโหลดเอกสารยืนยันตัวตน: อัพโหลดรูปถ่ายบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และรูปถ่ายเซลฟี่ของคุณ ระบบจะใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูล และเมื่อได้รับการยืนยัน คุณจะสามารถเริ่มซื้อขายคริปโตได้ทันที
5. การฝากเงินเข้าบัญชี
- เลือกวิธีการฝากเงิน: ไปที่หน้า "เงินฝาก" (Deposit) และเลือกสกุลเงินที่ต้องการฝาก เช่น THB หรือเหรียญคริปโตอื่นๆ
- โอนเงินเข้าบัญชี: ทำการโอนเงินตามรายละเอียดที่ระบุบนหน้าเว็บไซต์ โดยใช้บัญชีธนาคารที่คุณลงทะเบียนไว้
การสมัคร Binance นั้นใช้เวลาไม่มาก โดยแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้:
- ลงทะเบียนบัญชี: ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการกรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันอีเมล
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA): ใช้เวลาเพิ่มเติมไม่เกิน 5-10 นาที
- การยืนยันตัวตน (KYC): ส่วนนี้อาจใช้เวลานานที่สุด ขึ้นอยู่กับปริมาณการตรวจสอบของ Binance โดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 1-3 วันทำการ แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น หากมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือมีเอกสารที่ไม่สมบูรณ์
สรุปเวลาโดยรวมในการสมัคร Binance
- ลงทะเบียนบัญชี: 5-10 นาที
- การเปิดใช้งาน 2FA: 5-10 นาที
- การยืนยันตัวตน (KYC): 1-3 วันทำการ
ดังนั้น หากทุกขั้นตอนผ่านไปอย่างราบรื่น คุณสามารถเริ่มใช้งาน Binance ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงจนถึงไม่เกิน 3 วันทำการ
ไบแนนเป็นของประเทศอะไร
Binance เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีนในปี 2017 โดย Changpeng Zhao (CZ) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อย่างไรก็ตาม หลังจากการเริ่มต้นในจีน Binance ได้ย้ายฐานการดำเนินงานไปยังหลายประเทศเนื่องจากข้อบังคับด้านกฎระเบียบของจีนเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีที่เข้มงวดขึ้น
ปัจจุบัน Binance มีสำนักงานใหญ่และการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงมอลตา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ซึ่งทำให้ Binance เป็นแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีที่มีการดำเนินงานในระดับสากลและไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ
Binance TH มีเหรียญอะไรบ้าง
Binance มีเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลายให้เลือกซื้อขาย แต่สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทยที่ใช้ Binance TH หรือ Binance ที่รองรับตลาดไทย จะมีเหรียญหลักๆ ที่ได้รับความนิยมและรองรับการซื้อขายบนแพลตฟอร์มอย่างครบถ้วน ข้อมูลล่าสุด ณ ปี 2024 เหรียญที่ได้รับความนิยมและสามารถซื้อขายได้บน Binance TH รวมถึงเหรียญหลักที่มีอยู่บนแพลตฟอร์มทั่วโลก มีดังนี้:
เหรียญหลัก (Major Cryptocurrencies)
- Bitcoin (BTC): เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีแรกและที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาด
- Ethereum (ETH): แพลตฟอร์มที่รองรับสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) และแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์
- Binance Coin (BNB): เหรียญของ Binance ที่ใช้ในการลดค่าธรรมเนียมและมีประโยชน์ในหลายๆ ฟังก์ชันบนแพลตฟอร์ม
- Ripple (XRP): เหรียญที่เน้นการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว
- Cardano (ADA): แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่เน้นการพัฒนาโครงสร้างที่ปลอดภัยและยั่งยืน
- Polkadot (DOT): แพลตฟอร์มที่ช่วยให้บล็อกเชนต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้
เหรียญที่เป็นที่นิยมในตลาดไทย (Popular Cryptocurrencies in Thailand)
- Tether (USDT): เหรียญที่มีมูลค่าคงที่ (Stablecoin) ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ
- USD Coin (USDC): Stablecoin อีกตัวหนึ่งที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ
- Litecoin (LTC): เหรียญที่มีการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ
- Chainlink (LINK): โปรเจกต์ที่เชื่อมต่อข้อมูลจากโลกภายนอกเข้าสู่บล็อกเชน
- Dogecoin (DOGE): เหรียญที่เริ่มต้นจากมีมอินเทอร์เน็ต แต่ได้รับความนิยมอย่างมาก
เหรียญที่น่าสนใจอื่นๆ (Other Noteworthy Coins)
- Solana (SOL): แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ
- Avalanche (AVAX): แพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์
- Polygon (MATIC): โปรเจกต์ที่พัฒนาโซลูชันการปรับขนาดสำหรับ Ethereum
เพื่อดูรายการเหรียญทั้งหมดที่สามารถซื้อขายได้บน Binance TH คุณสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ Binance หรือแอปพลิเคชัน Binance จากนั้นไปที่หน้าตลาด (Markets) เพื่อดูเหรียญที่สามารถซื้อขายได้ในปัจจุบัน รายการเหรียญอาจมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการอัปเดตของ Binance และการอนุมัติเหรียญใหม่ๆ
Binance เทรดขั้นต่ำกี่บาท?
Binance มีข้อกำหนดในการเทรดขั้นต่ำที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคู่เหรียญและสกุลเงินที่คุณต้องการซื้อขาย สำหรับตลาดไทยหรือการเทรดในสกุลเงินไทย (THB) โดยทั่วไปจะมีข้อกำหนดการเทรดขั้นต่ำดังนี้:
ข้อกำหนดทั่วไปในการเทรดขั้นต่ำ
- มูลค่าการเทรดขั้นต่ำ: โดยทั่วไป Binance กำหนดให้มีการเทรดขั้นต่ำที่ประมาณ 10 USDT หรือเทียบเท่าประมาณ 300 บาทไทย อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้อาจแตกต่างกันไปตามคู่เหรียญที่คุณต้องการเทรด
- ขนาดล็อตขั้นต่ำ: Binance มีขนาดล็อตขั้นต่ำที่ต่างกันไปตามคู่เหรียญ บางเหรียญอาจมีการกำหนดขนาดขั้นต่ำที่ต่ำมาก เช่น 0.0001 BTC หรือ 0.01 ETH เป็นต้น
ตัวอย่างการเทรดขั้นต่ำใน Binance
- BTC/THB: การเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 0.0001 BTC
- ETH/THB: การเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 0.01 ETH
- BNB/THB: การเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 0.1 BNB
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจข้อกำหนดในการเทรดขั้นต่ำสำหรับคู่เหรียญที่คุณต้องการซื้อขาย คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดที่หน้าตลาดบนแพลตฟอร์ม Binance โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:
- เข้าสู่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Binance: หากคุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ ให้ทำการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีของคุณ
- ไปที่หน้าตลาด (Markets): เลือกคู่เหรียญที่คุณต้องการเทรด
- ตรวจสอบข้อมูลการเทรดขั้นต่ำ: ดูที่หน้ารายละเอียดของคู่เหรียญนั้นๆ จะมีข้อมูลเกี่ยวกับขนาดการเทรดขั้นต่ำและมูลค่าการเทรดขั้นต่ำ
การทำความเข้าใจและตรวจสอบข้อมูลการเทรดขั้นต่ำนี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการเทรด
ไบแนนซ์ มีภาษาไทยไหม
Binance ประกาศเมื่อวานนี้ 12 พฤศจิกายน 2564 จะหยุดรองรับภาษาไทย โดยมีผลในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564
เคล็ดลับในการใช้งาน Binance อย่างมืออาชีพ
1. ศึกษาตลาดและวิเคราะห์ข้อมูล
การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยง ดังนั้นการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้เครื่องมือและข้อมูลต่างๆ บน Binance เช่น กราฟราคา, ปริมาณการซื้อขาย และข่าวสารที่เกี่ยวข้อง
2. การใช้ Stop-Loss และ Take-Profit
เพื่อป้องกันการขาดทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร คุณสามารถใช้คำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit โดยการตั้งค่าราคาที่ต้องการขายเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด
3. การติดตามผลการลงทุน
ควรติดตามผลการลงทุนของคุณอย่างสม่ำเสมอ โดยการตรวจสอบประวัติการซื้อขายและยอดเงินคงเหลือในบัญชี เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์
ข้อควรระวังในการใช้งาน Binance
1. ระวังการฟิชชิง (Phishing)
หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาและตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ Binance ทุกครั้งก่อนการเข้าสู่ระบบ เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูล
2. การจัดการรหัสผ่าน
ควรใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันกับเว็บไซต์อื่นๆ
3. การป้องกันความเสี่ยง
ไม่ควรลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีด้วยเงินที่คุณไม่สามารถสูญเสียได้ และควรกระจายการลงทุนในหลายๆ เหรียญเพื่อลดความเสี่ยง
สรุป
การสมัครใช้งาน Binance ในไทยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีความระมัดระวังในการกรอกข้อมูลและปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้อง หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย อย่าลืมศึกษาตลาดและติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้วยขั้นตอนที่ชัดเจนและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ คุณจะสามารถใช้งาน Binance ได้อย่างมืออาชีพและปลอดภัย พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการทำกำไรจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
What's Your Reaction?